การจะเริ่มต้นปูพื้นด้วยกระเบื้องยางให้สวย คงทน และใช้วัสดุได้คุ้มค่า “การวัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง” ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่มองข้ามไม่ได้ เพราะถึงเราจะเลือกกระเบื้องยางได้ดีแค่ไหน แต่ถ้าวัดพื้นที่ผิดพลาดไปนิดเดียว งบประมาณอาจบานปลาย หรือแผ่นไม่พอจนต้องเสียเวลาไปซื้อซ้ำ ในบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักทุกขั้นตอนสำคัญในการวัดพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ห้องสี่เหลี่ยมธรรมดา ไปจนถึงรูปทรงที่มีความซับซ้อน พร้อมเทคนิคเคล็ดลับที่ช่างปูพื้นมือโปรนิยมใช้ เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจและลงมือทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
1. ทำความเข้าใจว่าทำไมการวัดพื้นที่ปูกระเบื้องยางถึงสำคัญ
หลายคนอาจคิดว่า การวัดพื้นที่เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ไม่เห็นจะต้องใส่ใจมากขนาดนั้น แต่จริง ๆ แล้ว หากเรา “วัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง” อย่างไม่รอบคอบ อาจเกิดปัญหาเหล่านี้ตามมา
- งบประมาณบานปลาย
- เมื่อคำนวณปริมาณกระเบื้องยางที่ต้องใช้ไม่ตรงตามขนาดพื้นที่จริง อาจซื้อวัสดุมามากเกินความจำเป็น ทำให้เหลือทิ้งเปล่า ๆ โดยใช่เหตุ
- เสียเวลาและล่าช้า
- หากซื้อกระเบื้องยางมาน้อยเกินไป พอถึงเวลาปูจริงพบว่าไม่เพียงพอ ต้องเสียเวลาขับรถกลับไปซื้อ หรือสั่งเพิ่ม ซึ่งบางทีอาจต้องรอการจัดส่งอีกเป็นวัน ๆ
- เจอปัญหาแบ่งโซนไม่ลงตัว
- การวัดพื้นที่รวมไปถึงการคำนึงถึงบัวเชิงผนัง มุมเสา หรือส่วนเว้าส่วนโค้งของห้อง จะช่วยให้เราเตรียมแผ่นกระเบื้องยางสำหรับตัดให้ตรงมุมได้พอดี ถ้าวัดไม่ดีอาจทำให้การจัดเรียงเกิดรอยต่อที่ดูไม่เรียบร้อย
- เกิดความเครียดและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- เมื่อวางแผนผิดพลาด เราอาจต้องจ่ายเพิ่มอย่างไม่คาดคิด ยิ่งถ้ารุ่นหรือสีของกระเบื้องยางขาดตลาด อาจต้องเปลี่ยนลายกะทันหันจนไม่เข้ากับที่ปูไปแล้ว
ดังนั้น หากจะให้แน่ใจว่าทุกขั้นตอนจะราบรื่นและลงตัว การทำความเข้าใจวิธี “วัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง” จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง
2. เตรียมตัวอย่างไรก่อนวัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง
ก่อนหยิบตลับเมตรมาจัดการวัด คุณควรเตรียมตัวให้พร้อมตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาถูกต้องแม่นยำที่สุด
- เคลียร์ห้องให้โล่ง
- ถ้าเป็นไปได้ ควรจัดเก็บหรือย้ายเฟอร์นิเจอร์ออกจากบริเวณที่จะปูพื้นให้มากที่สุด เพื่อให้สามารถเดินวัดระยะได้สะดวก ไม่ต้องคอยหลบสิ่งกีดขวาง
- สำรวจสภาพพื้น
- หากพื้นปัจจุบันมีความต่างระดับ มีร่องร้าว หรือความชื้นสะสม ควรจดบันทึกไว้ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจมีผลต่อการวางแผนปูพื้น และบางครั้งอาจต้องเผื่อวัสดุในการปรับระดับพื้น หรือรื้อพื้นเดิมก่อนติดตั้งกระเบื้องยาง
- เตรียมอุปกรณ์
- ตลับเมตรหรือเมตรเลเซอร์ (Laser Distance Meter)
- กระดาษปากกาหรือสมุดจด พร้อมดินสอหรือปากกา
- เครื่องคิดเลข หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนเพื่อคำนวณตัวเลข
- ถ้าพื้นที่มีรูปทรงซับซ้อน อาจเตรียมไม้บรรทัดและอุปกรณ์ร่างแบบง่าย ๆ เพื่อช่วยสเก็ตช์ภาพห้องได้อย่างคร่าว ๆ
- กำหนดจุดเริ่มต้นในการวัด
- พยายามวางแผนว่าเราจะวัดจากผนังด้านไหนไปอีกด้านหนึ่ง เพื่อให้การจดตัวเลขเป็นระเบียบ เมื่อมีหลายจุดจะได้ไม่สับสน
3. วิธีวัดพื้นที่ปูกระเบื้องยางในห้องสี่เหลี่ยม
กรณีที่พื้นห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส การวัดจะค่อนข้างง่ายและตรงไปตรงมา ดังนี้
- วัดความยาวและความกว้าง
- ใช้ตลับเมตรวัดระยะจากผนังด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง เพื่อหาความยาว (Length) และความกว้าง (Width) ของห้อง (ในหน่วยเมตร หรือเซนติเมตร แล้วแต่ความถนัด)
- ควรวัดอย่างน้อย 2 ครั้งเพื่อความแน่นอน บางครั้งผนังอาจเบี้ยวเล็กน้อย
- คำนวณพื้นที่
- สูตรการคำนวณพื้นที่ของห้องสี่เหลี่ยม = “ความยาว x ความกว้าง”
- ตัวอย่าง: หากห้องยาว 4 เมตร และกว้าง 3 เมตร พื้นที่ = 4 x 3 = 12 ตารางเมตร
- เผื่อวัสดุสำรอง
- แม้ห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมตรง ๆ ก็ยังแนะนำให้เผื่อวัสดุสัก 5-10% เพราะเวลาปูจริงอาจมีการตัดแผ่นกระเบื้องยาง หรืออาจเจอความผิดพลาดอื่น ๆ
- ดังนั้น จากตัวอย่างพื้นที่ 12 ตารางเมตร ควรเตรียมวัสดุเผื่อเพิ่มอีกประมาณ 1.2 ตร.ม. (10%) หรืออย่างน้อย 0.6 ตร.ม. (5%) เพื่อความอุ่นใจ
4. วิธีวัดพื้นที่ปูกระเบื้องยางในกรณีห้องหรือพื้นที่มีรูปทรงซับซ้อน
บ้านหรืออาคารสมัยใหม่มักจะมีการเล่นระดับหรือออกแบบพื้นที่ให้มีรูปทรงไม่เป็นสี่เหลี่ยมแบบเป๊ะ ๆ เช่น มีเสาอยู่กลางห้อง มุมโค้ง หรือห้องรูปตัว L ซึ่งการวัดพื้นที่ก็อาจต้องใช้เทคนิคเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
4.1 ห้องรูปตัว L (L-Shaped Room)
- แบ่งพื้นที่เป็นสองส่วน
- จินตนาการให้ห้องที่มีรูปตัว L แบ่งเป็น 2 สี่เหลี่ยมย่อย แล้ววัดพื้นที่ทั้งสองส่วนอย่างเป็นสัดส่วน
- รวมผลลัพธ์
- เมื่อได้พื้นที่สี่เหลี่ยมย่อยทั้งสองส่วนแล้ว ก็นำทั้งสองค่ามาบวกกันเพื่อหาพื้นที่รวม
- เผื่อวัสดุสำรอง
- สำหรับห้องรูปตัว L แนะนำให้เผื่อวัสดุ 10-15% เนื่องจากมุมหักส่วนต่าง ๆ ที่อาจต้องตัดแผ่นเป็นรูปทรงพิเศษ
4.2 พื้นที่มีเสาหรือผนังยื่นเข้ามากลางห้อง
- วัดพื้นหลักเหมือนสี่เหลี่ยมปกติ
- วัดความยาวและความกว้างของห้องโดยรวมก่อน
- วัดขนาดเสาหรือส่วนยื่น
- กำหนดกรอบสี่เหลี่ยม (หรือวงกลม ตามลักษณะเสา) เพื่อคำนวณพื้นที่เสา ที่จะต้อง “หักลบ” ไม่ต้องปู หรือวัดเพื่อคิดว่าต้องตัดกระเบื้องอย่างไร
- หักลบหรือปรับตามความต้องการ
- หากเสาอยู่ตรงกลางและไม่ต้องการปูบริเวณรอบเสา ก็ต้องหักพื้นที่เสาออก หรือถ้าต้องการปูพื้นที่ทั้งหมดจนชิดเสา ก็ไม่ต้องหักพื้นที่ แต่ควรเผื่อวัสดุเพื่อตัดให้โค้งตามแนวเสา
4.3 พื้นที่เว้า-โค้ง หรือมีมุมโค้งไม่เป็นเส้นตรง
- ร่างแบบคร่าว ๆ
- วาดพื้นห้องคร่าว ๆ ลงในกระดาษ ให้ใกล้เคียงของจริงมากที่สุด
- แบ่งพื้นที่ออกเป็นรูปทรงง่าย
- อาจแบ่งเป็นสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หรือวงกลมย่อย ๆ แล้ววัดทีละส่วน
- คำนวณพื้นที่รวม
- นำพื้นที่ของส่วนย่อย ๆ มารวมกัน เป็นพื้นที่ทั้งหมดที่จะปู
- เผื่อพื้นที่เพิ่มมากขึ้น
- การปูกระเบื้องยางในมุมโค้งหรือลูกเล่นแบบนี้ ต้องมีการตัดและทาบหลายขั้นตอน จึงควรเผื่อวัสดุสำรอง 10-15% หรือมากกว่านั้น
5. เทคนิคการคำนวณให้คุ้มค่าสำหรับ “วัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง”
เมื่อต้องจัดการวัดพื้นที่ในบ้านหลาย ๆ ห้องพร้อมกัน หรือมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ทั้งชั้นหรือทั้งอาคาร ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายและลดความผิดพลาด
- สรุปตารางสัดส่วน
- จดข้อมูลลงในตารางหรือสเปรดชีต (Spreadsheet) โดยระบุชื่อห้อง ความยาว ความกว้าง พื้นที่รวม และจำนวนแผ่นที่ต้องใช้ในแต่ละห้อง จะช่วยให้มองภาพรวมได้ชัดเจน
- ใช้แอปพลิเคชันหรือโปรแกรมออนไลน์
- ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันวัดพื้นที่หลากหลายบนสมาร์ตโฟน และโปรแกรมคำนวณออนไลน์ที่สามารถช่วยคุณทำงานได้สะดวกขึ้น แต่ต้องระวังว่าจะต้องมีการปรับหน่วยหรือพิจารณาความคลาดเคลื่อนด้วย
- เช็กขนาดบรรจุกระเบื้องยางต่อกล่อง
- กระเบื้องยางมักถูกบรรจุเป็นกล่อง ข้างกล่องจะระบุว่าภายใน 1 กล่องสามารถปูได้กี่ตารางเมตร การรู้อัตราส่วนนี้จะช่วยให้คุณคำนวณจำนวนกล่องที่ต้องใช้ได้อย่างแม่นยำกว่า
- ปรึกษาช่างมืออาชีพ
- หากคุณไม่มั่นใจ หรือพื้นที่มีความซับซ้อนมาก ควรปรึกษาหรือให้ผู้เชี่ยวชาญมาวัดพื้นที่ให้ การลงทุนเล็กน้อยนี้อาจช่วยประหยัดในระยะยาวและลดความผิดพลาด
6. วัดพื้นที่แล้ว ควรเผื่อวัสดุเท่าไหร่?
คำถามยอดฮิตของหลายคนที่กำลังจะปูกระเบื้องยางคือ “ต้องเผื่อวัสดุเท่าไหร่ดี?” เพราะไม่อยากซื้อมากไปจนเหลือเยอะ หรือซื้อน้อยจนไม่พอใช้ ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและเงื่อนไขดังนี้
- ห้องสี่เหลี่ยมพื้นฐาน
- หากห้องเป็นสี่เหลี่ยมมาตรฐาน ไม่มีการตัดเยอะ สามารถเผื่อวัสดุ 5-7% ได้
- ห้องที่มีมุมเสาหรือรูปทรงซับซ้อน
- ควรเผื่อ 10-15% เพราะมีโอกาสตัดเสียหรือวางแผ่นผิดได้มากกว่า
- งานโครงการใหญ่หรือพื้นโถงกว้าง
- หากเป็นพื้นที่กว้างที่ไม่มีการเว้าโค้ง อาจเผื่อที่ 5% ก็พอ แต่ถ้าเป็นโครงการใหญ่ที่มีโซนต่าง ๆ ควรระวังเรื่องความคลาดเคลื่อนในส่วนต่อต่าง ๆ และเผื่อ 7-10% เพื่อความมั่นใจ
- ลักษณะของกระเบื้องยาง
- กระเบื้องยางชนิด Click Lock มักตัดต่อเฉพาะบริเวณขอบห้อง หากห้องมีรูปทรงเรียบง่าย อาจเผื่อต่ำ ๆ ได้ ส่วนกระเบื้องยางแบบม้วน (Sheet Vinyl) หรือแบบแผ่น Dry Back ที่ต้องทากาว หากวัดผิดเพียงเล็กน้อยก็อาจต้องตัดใหม่ จึงควรเผื่อเพิ่มอีกเล็กน้อย
7. ข้อควรระวังในการวัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง
- อย่าลืมคำนวณพื้นที่บัวเชิงผนังหรือขอบห้อง
หากคุณมีแผนปูขอบห้องด้วยกระเบื้องยางเป็นบัวเชิงผนังแนวตั้ง ต้องเพิ่มพื้นที่ส่วนนี้ด้วย เพราะอาจต้องตัดแผ่นให้พอดีกับผนัง - ระวังผนังหรือพื้นไม่ตรงเป๊ะ
ในบ้านเก่าหรือบางอาคาร ผนังอาจไม่ได้อยู่ในแนวตรงทั้งหมด ทำให้เมื่อวัดด้านหนึ่งได้ 4.00 เมตร แต่อีกด้านอาจ 3.95 เมตร ให้เฉลี่ยหรือสังเกตความต่างนี้ไว้ด้วย - ตรวจสอบประตูหรือบานหน้าต่าง
บางครั้งอาจต้องยกประตูขึ้น หากปูกระเบื้องยางมีความหนามากขึ้นกว่าเดิม หรือถ้ามีวงกบหน้าต่างยื่นลงมา ควรเผื่อให้มีระยะตัดแผ่น - เช็กความชันหรือการลดระดับ
ในบางห้อง เช่น ห้องน้ำ อาจมีการเล่นระดับพื้น เพื่อระบายน้ำ จึงอาจต้องวัดพื้นที่แบบลาดเอียง อย่าลืมคำนวณเพื่อป้องกันการขาดวัสดุ
8. ตัวอย่างการวัดพื้นที่จริง: จากห้องนั่งเล่นถึงโถงกลางบ้าน
เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ลองดูตัวอย่างสั้น ๆ ของบ้านหลังหนึ่งที่มีรูปแบบทั่วไป
- ห้องนั่งเล่น (สี่เหลี่ยมปกติ)
- ความยาว 4.20 เมตร, ความกว้าง 3.80 เมตร
- พื้นที่ = 4.20 x 3.80 = 15.96 ตร.ม.
- เผื่อ 10% = 15.96 + (15.96 x 0.10) = 15.96 + 1.596 = ประมาณ 17.56 ตร.ม.
- ห้องรับประทานอาหาร (มีเสายื่นออกมาตรงกลาง)
- วัดภาพรวมเป็นสี่เหลี่ยมก่อน 4.00 x 3.50 = 14 ตร.ม.
- เสากลางห้องกินพื้นที่ 0.50 x 0.50 = 0.25 ตร.ม.
- ถ้าต้องการปูพื้นชนเสา แต่ไม่ปูที่ตัวเสา ก็ไม่ต้องหักออก แต่หากเป็นการหักออกก็จะอยู่ที่ 14 – 0.25 = 13.75 ตร.ม. (ขึ้นกับว่าสเปคการปูเป็นแบบไหน)
- เผื่อการตัดแผ่น 10% เช่น ถ้าคิดรวมเต็มพื้นที่ 14 ตร.ม. + (14 x 0.10) = 15.4 ตร.ม.
- โถงกลางบ้าน (มีรูปทรงตัว L)
- แบ่งเป็นส่วน A และส่วน B:
- ส่วน A: 3.00 x 2.50 = 7.50 ตร.ม.
- ส่วน B: 2.00 x 2.50 = 5.00 ตร.ม.
- รวมกัน 7.50 + 5.00 = 12.50 ตร.ม.
- เผื่อ 10-15% (ควรเผื่อมากหน่อยเพราะรูปทรงตัว L): ถ้าเผื่อ 12% = 12.50 + (12.50 x 0.12) = 14 ตร.ม. (ประมาณ)
- แบ่งเป็นส่วน A และส่วน B:
จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่า แต่ละห้องต่างก็มีลักษณะการวัดที่แตกต่างกัน หากเราวางแผนและจดบันทึกดี ๆ ก็สามารถกำหนดจำนวนกระเบื้องยางที่ต้องใช้ได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด
9. หลังวัดพื้นที่เสร็จ ควรทำอะไรต่อ?
เมื่อตัวเลขในการ “วัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง” พร้อมแล้ว ยังมีสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อวัสดุและลงมือติดตั้ง ดังนี้
- เลือกชนิดกระเบื้องยางที่เหมาะสม
- กระเบื้องยางมีหลายประเภท เช่น คลิกล็อก (Click Lock), แบบม้วน (Sheet Vinyl), แบบกาวในตัว (Self-Adhesive), แบบ Dry Back และ SPC (Stone Plastic Composite) ซึ่งแต่ละชนิดต่างกันในเรื่องความหนา ราคา และวิธีติดตั้ง ควรเลือกให้เหมาะกับพื้นที่และงบประมาณ
- ตรวจสอบราคาและส่วนลด
- บางร้านอาจมีโปรโมชั่นลดราคาหรือส่วนลดเมื่อซื้อจำนวนมาก อย่าลืมสอบถามหรือเปรียบเทียบหลาย ๆ เจ้า เพื่อตัดสินใจได้อย่างคุ้มค่า
- วางแผนตารางเวลาติดตั้ง
- การปูพื้นอาจต้องใช้เวลาเตรียมหน้างาน เช่น ปรับระดับพื้นหรือรอพื้นแห้ง อย่าลืมคิดเผื่อเวลาสำหรับขั้นตอนเหล่านี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่องานอื่น ๆ ในบ้าน
- หาผู้ติดตั้งมืออาชีพ (หากไม่ทำเอง)
- ถ้าคุณเลือกติดตั้งเอง แต่ขาดความชำนาญ พื้นที่อาจออกมาไม่สวยเท่าที่ควร และอาจเกิดรอยต่อหรือหลุดล่อนในระยะยาวได้ หากไม่มีประสบการณ์มาก่อน ลองปรึกษาช่างเฉพาะทางจะดีกว่า
10. สรุปเคล็ดลับ “วัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง” ให้แม่นยำและไร้กังวล
- วางแผนล่วงหน้า
- สำรวจพื้นที่และรูปทรงของห้อง รวบรวมข้อมูลว่าต้องเผื่อการตัดแผ่นมากน้อยแค่ไหน เพื่อเตรียมกระเบื้องยางได้ครบถ้วน
- ใช้วิธีแบ่งห้องเป็นส่วนย่อยเมื่อจำเป็น
- กรณีพื้นที่ซับซ้อนหรือมีมุมต่าง ๆ ให้แบ่งเป็นรูปทรงง่าย ๆ เพื่อคำนวณได้สะดวก
- เผื่อวัสดุ 5-15% ตามความซับซ้อน
- ห้องสี่เหลี่ยมปกติอาจเผื่อแค่ 5-7% แต่ถ้าเป็นห้องตัว L หรือมีเสาเยอะ ให้เผื่อสูงขึ้น
- เช็กข้อมูลบนกล่องกระเบื้องยาง
- รู้ว่ากล่องหนึ่งปูได้กี่ตารางเมตร จะได้คำนวณจำนวนกล่องที่ต้องซื้อได้ง่ายขึ้น
- ทำตารางรวบรวมตัวเลข
- หากมีหลายห้อง ให้จดให้ละเอียด ทั้งความยาว ความกว้าง พื้นที่รวม และเผื่อ %
- อย่าลืมพื้นที่พิเศษ
- ถ้ามีบัวเชิงผนัง ประตูยื่นเข้า-ออก หรือระดับพื้นต่างระดับ ควรรวมปัจจัยเหล่านี้เข้าด้วย
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
- หากไม่มั่นใจ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากช่างมือโปร เพราะความผิดพลาดจากการวัดอาจนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น
ส่งท้าย: การวัดพื้นที่ไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจ
แม้กระบวนการ “วัดพื้นที่ปูกระเบื้องยาง” อาจฟังดูเป็นเพียงขั้นตอนเล็ก ๆ แต่มันคือรากฐานที่สำคัญอย่างยิ่งในการให้ได้พื้นสวย เนี๊ยบ และคุ้มค่าที่สุด เพราะเมื่อคุณวัดพื้นที่ได้แม่นยำ และเข้าใจว่าควรเผื่อวัสดุอย่างไร การเลือกซื้อกระเบื้องยางก็จะเป็นไปอย่างง่ายดาย และประหยัดค่าใช้จ่ายในกระเป๋าไปพร้อม ๆ กัน ไม่ต้องกังวลเรื่องซื้อไม่พอหรือซื้อเกินจนเหลือใช้ไม่ถูก
ยิ่งไปกว่านั้น การมีข้อมูลตัวเลขพื้นที่ที่ถูกต้อง ยังช่วยให้ผู้ขายหรือช่างสามารถให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการเสนอกระเบื้องยางรุ่นใด ยี่ห้อไหน หรือแนะนำอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ให้เหมาะกับพื้นที่ของคุณ เพราะฉะนั้น อย่ามองข้ามหรือ “กะเอา” โดยไม่ได้วัดจริง เพราะการลงมืออย่างละเอียดถี่ถ้วนแค่เล็กน้อยในขั้นแรก จะช่วยให้ขั้นตอนต่อ ๆ มาในงานปูพื้นของคุณ ราบรื่นอย่างไม่น่าเชื่อ
ลองเก็บคำแนะนำในบทความนี้ไปใช้ในการวางแผนปูพื้นบ้านหรือโครงการอื่น ๆ ของคุณ แล้วคุณจะพบว่า การปูพื้นด้วยกระเบื้องยางไม่ใช่งานยากอย่างที่หลายคนคิด แถมยังได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ทนทาน และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณอย่างลงตัวแน่นอน!
จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระเบื้องยาง กระเบื้องปูพื้น SPC,แผ่นปูกระเบื้องยาง LVT กระเบื้องยางคลิ๊กล็อค บัว-ตัวจบ ครบองค์ประกอบเรื่องพื้น สวยงามคุณภาพสูง มาพร้อมลวดลายสีสันให้เลือก มากมาย มีความทนทาน กันน้ำ-กันปลวก แถมยัง ปลอดภัยยับยั้งแบคทีเรีย คุณภาพคุ้มราคา สนใจติดต่อ 062-645-8855
มีทีมงานบริการวัดพื้นที่
มีทีมช่างแนะนำพร้อมติดตั้ง
รับประกันสินค้า* และบริการ*
จัดส่งทั่วประเทศ
เรื่องพื้นๆไว้ใจ SMART BUILTS