กาวปูกระเบื้องยาง ควรเลือกแบบไหน? เคล็ดลับที่ช่วยให้การปูกระเบื้องยางสมบูรณ์แบบ
กระเบื้องยางเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับการตกแต่งพื้น เพราะติดตั้งง่าย ทนทาน และดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการปูกระเบื้องยางคือ “กาวปูกระเบื้องยาง” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำให้พื้นของคุณยึดติดแน่น ทนทาน และใช้งานได้ยาวนาน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกวิธีเลือกกาวปูกระเบื้องยางแบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานของคุณ พร้อมเคล็ดลับการติดตั้งที่คุณไม่ควรพลาด
กาวปูกระเบื้องยางมีแบบไหนบ้าง?
กาวปูกระเบื้องยางมีหลากหลายประเภท โดยแบ่งตามลักษณะการใช้งานและวัสดุพื้นฐานของกาว ดังนี้:
1. กาวอะคริลิก (Acrylic Adhesive)
คุณสมบัติเด่น:
- ผลิตจากสารอะคริลิก ให้ความยืดหยุ่นและยึดเกาะดี
- ทนทานต่อความชื้นและความร้อน
- ไม่มีกลิ่นฉุน ปลอดภัยต่อสุขภาพ
เหมาะสำหรับ:
- พื้นที่ภายในอาคาร เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องทำงาน
- พื้นที่ที่ไม่เปียกชื้นมาก เช่น พื้นไม้หรือพื้นซีเมนต์ที่ผ่านการปรับสภาพ
2. กาวโพลียูรีเทน (Polyurethane Adhesive)
คุณสมบัติเด่น:
- ทนต่อการใช้งานหนักและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
- ยืดหยุ่นสูง เหมาะกับพื้นผิวที่มีการขยับหรือหดตัว
- กันน้ำได้ดีมาก
เหมาะสำหรับ:
- พื้นที่ภายนอกอาคาร เช่น ระเบียงหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์
- พื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน เช่น ฟิตเนสหรือโรงยิม
3. กาวซีเมนต์ (Cement-based Adhesive)
คุณสมบัติเด่น:
- เหมาะสำหรับพื้นผิวที่เป็นปูนหรือซีเมนต์
- ยึดเกาะแน่นและทนทานต่อแรงกระแทก
- ราคาประหยัด เหมาะกับงานที่ต้องการใช้ปริมาณมาก
เหมาะสำหรับ:
- การปูกระเบื้องยางในพื้นที่ที่เป็นพื้นปูน เช่น โรงงานหรือโกดังสินค้า
- พื้นที่ที่ไม่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
4. กาวสูตรน้ำ (Water-based Adhesive)
คุณสมบัติเด่น:
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อสุขภาพ
- ไม่มีกลิ่นฉุนและทำความสะอาดง่าย
- แห้งเร็วและใช้งานสะดวก
เหมาะสำหรับ:
- การปูพื้นในบ้านพักอาศัย โดยเฉพาะห้องที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ
- พื้นที่ที่ต้องการการติดตั้งแบบรวดเร็ว
วิธีเลือกกาวปูกระเบื้องยางให้เหมาะสม
1. พิจารณาประเภทของกระเบื้องยาง
กระเบื้องยางมีหลากหลายแบบ เช่น กระเบื้องยางแบบม้วน กระเบื้องยาง SPC หรือกระเบื้องยาง PVC กาวที่เลือกใช้งานควรเหมาะสมกับวัสดุของกระเบื้องยางแต่ละชนิด
2. วิเคราะห์พื้นผิวที่ต้องการปู
- พื้นไม้: ควรใช้กาวอะคริลิกหรือกาวสูตรน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้กาวกัดกร่อนพื้นไม้
- พื้นปูน: เหมาะกับกาวซีเมนต์ที่ยึดเกาะได้ดีบนพื้นผิวที่ขรุขระ
- พื้นผิวโลหะหรือกระจก: ใช้กาวโพลียูรีเทนเพื่อการยึดเกาะที่แข็งแรง
3. คำนึงถึงสภาพแวดล้อม
- พื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ควรเลือกกาวที่กันน้ำได้ดี
- พื้นที่ที่ต้องเผชิญความร้อนสูง เช่น ห้องครัว ควรเลือกกาวที่ทนความร้อน
4. งบประมาณ
หากคุณมีงบประมาณจำกัด กาวซีเมนต์และกาวสูตรน้ำมักเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า แต่หากคุณต้องการคุณภาพสูงสำหรับงานเฉพาะทาง กาวโพลียูรีเทนอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
เคล็ดลับในการใช้กาวปูกระเบื้องยาง
- เตรียมพื้นผิวให้พร้อม
- ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่น น้ำมัน หรือคราบสกปรก
- ปรับพื้นผิวให้เรียบและแห้งสนิทก่อนการติดตั้ง
- เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม
- ใช้เกรียงหวีสำหรับการปูกระเบื้อง เพื่อให้กาวกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
- ปูกระเบื้องยางทันทีหลังทากาว
- หลังจากทากาว ควรปูกระเบื้องยางทันทีตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้กาวยังคงยึดเกาะได้ดี
- ตรวจสอบความเรียบร้อย
- กดกระเบื้องยางให้แนบสนิทกับพื้นผิว และใช้ลูกกลิ้งเพื่อไล่อากาศ
สรุป: กาวปูกระเบื้องยาง ควรเลือกแบบไหน?
การเลือกกาวปูกระเบื้องยางที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้การติดตั้งง่ายขึ้น แต่ยังเพิ่มความทนทานให้พื้นของคุณในระยะยาว กาวอะคริลิกเหมาะกับพื้นที่ภายใน กาวโพลียูรีเทนตอบโจทย์พื้นที่ใช้งานหนัก กาวซีเมนต์เหมาะกับพื้นปูน และกาวสูตรน้ำเป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระเบื้องยาง กระเบื้องปูพื้น SPC,แผ่นปูกระเบื้องยาง LVT กระเบื้องยางคลิ๊กล็อค บัว-ตัวจบ ครบองค์ประกอบเรื่องพื้น สวยงามคุณภาพสูง มาพร้อมลวดลายสีสันให้เลือก มากมาย มีความทนทาน กันน้ำ-กันปลวก แถมยัง ปลอดภัยยับยั้งแบคทีเรีย คุณภาพคุ้มราคา สนใจติดต่อ
082-414-5625
062-645-8855
066-115-2362
มีทีมงานบริการวัดพื้นที่
มีทีมช่างแนะนำพร้อมติดตั้ง
รับประกันสินค้า* และบริการ*
จัดส่งทั่วประเทศ
เรื่องพื้นๆไว้ใจ SMART BUILTS