ไม่มีสินค้าในตะกร้า
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “พื้น SPC” มากขึ้นเรื่อยๆ แต่หลายคนยังสงสัยว่า “SPC” ย่อมาจากอะไรกันแน่ และทำไมวัสดุปูพื้นชนิดนี้ถึงได้รับความนิยมในตลาดอย่างรวดเร็ว ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกทุกแง่มุมของพื้น SPC เพื่อให้คุณได้รู้จักวัสดุนี้อย่างแท้จริง พร้อมแนะนำข้อดี ข้อเสีย และคำแนะนำในการใช้งานอย่างถูกวิธี
SPC ย่อมาจาก?
SPC คือคำย่อจากภาษาอังกฤษว่า Stone Plastic Composite ซึ่งแปลเป็นไทยได้ง่ายๆ ว่า “วัสดุผสมจากหินและพลาสติก” หรือที่นิยมเรียกกันในชื่อ “พื้นไวนิล SPC” นั่นเอง โดยวัสดุนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านการปูพื้นที่ต้องการความทนทาน กันน้ำ และง่ายต่อการติดตั้ง
พื้น SPC ผลิตจากส่วนผสมของหินปูน (Calcium Carbonate) ประมาณ 70-80% ผสมกับวัสดุพลาสติก (Polyvinyl Chloride หรือ PVC) ประมาณ 20-30% ผ่านกระบวนการผลิตที่เรียกว่า Extrusion ซึ่งเป็นการอัดวัสดุที่มีความดันและความร้อนสูงให้กลายเป็นแผ่นแข็งที่มีคุณสมบัติทนทานมากเป็นพิเศษ
โครงสร้างของพื้น SPC มีอะไรบ้าง?
พื้น SPC มีโครงสร้างที่สำคัญ 4 ชั้นด้วยกัน ได้แก่
- ชั้นป้องกันรอยขีดข่วน (Wear Layer): เป็นชั้นบนสุดที่เคลือบด้วยสารป้องกันการสึกหรอ มีความหนาตั้งแต่ 0.3 – 0.7 มิลลิเมตร ช่วยปกป้องลวดลายพื้นผิวไม่ให้เสียหาย
- ชั้นลายตกแต่ง (Decorative Layer): ชั้นนี้จะเป็นชั้นที่มีการพิมพ์ลวดลาย เช่น ลายไม้ ลายหินอ่อน หรือแม้แต่ลายปูนเปลือย เพื่อเพิ่มความสวยงามและความสมจริงให้กับพื้น
- ชั้นแกน SPC (SPC Core): เป็นหัวใจสำคัญของพื้น SPC ซึ่งมีส่วนผสมของหินปูนและพลาสติก ทำให้มีความแข็งแรงและทนทานเป็นพิเศษ
- ชั้นฐานรอง (Underlayment): ชั้นล่างสุดของพื้น SPC มักเป็นแผ่นโฟมบางๆ ช่วยในการดูดซับแรงกระแทกและลดเสียงที่เกิดจากการเดิน
ข้อดีของพื้น SPC
1. ความทนทานสูง
พื้น SPC มีความแข็งแรงและทนทานสูงมาก สามารถทนต่อแรงกดทับและแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม เหมาะกับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น สำนักงาน ร้านอาหาร โรงแรม หรือบ้านพักที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง
2. กันน้ำได้ 100%
พื้น SPC สามารถกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติเด่นที่สำคัญมาก ทำให้เหมาะกับพื้นที่เปียกชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ใต้ดินที่อาจมีปัญหาความชื้น
3. ติดตั้งง่าย
การติดตั้งพื้น SPC มักใช้ระบบ Click Lock ที่สามารถล็อคแผ่นพื้นแต่ละแผ่นเข้าด้วยกันได้โดยไม่ต้องใช้กาว ช่วยลดขั้นตอนในการติดตั้ง และยังสามารถติดตั้งทับพื้นเดิมได้ทันที
4. ดูแลรักษาง่าย
พื้น SPC ทำความสะอาดง่ายมาก เพียงใช้น้ำและน้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ เช็ดถูเท่านั้นก็เพียงพอ ทำให้พื้นดูใหม่อยู่เสมอ
5. ลดเสียงรบกวน
ชั้นฐานรองของพื้น SPC มีคุณสมบัติช่วยดูดซับเสียง ทำให้การเดินหรือเคลื่อนไหวบนพื้นไม่เกิดเสียงดังรบกวน เหมาะกับคอนโดและอพาร์ทเมนท์
ข้อเสียของพื้น SPC
1. แข็งและให้สัมผัสที่เย็นกว่า
เนื่องจากมีส่วนผสมของหินปูนมาก ทำให้พื้น SPC แข็งและอาจให้สัมผัสที่เย็นกว่าเมื่อเทียบกับกระเบื้องยางที่มีความนุ่มกว่า
2. ต้องปรับพื้นให้เรียบก่อนติดตั้ง
เพื่อให้ระบบล็อค Click Lock ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ พื้นเดิมควรปรับให้เรียบสนิทก่อนการติดตั้งเสมอ
3. ราคาสูงกว่าพื้นไวนิลทั่วไป
พื้น SPC มีราคาที่สูงกว่าพื้นไวนิลธรรมดาเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาถึงความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
พื้น SPC เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการพื้นทนทาน ใช้งานหนักได้ดี
- ผู้ที่ต้องการพื้นป้องกันน้ำและความชื้นสูงสุด
- ผู้ที่ต้องการติดตั้งพื้นอย่างรวดเร็วและสะดวก
- ผู้ที่ต้องการดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดมากนัก
สรุป SPC ย่อมาจากอะไร และดีไหม?
SPC หรือ Stone Plastic Composite คือวัสดุผสมจากหินปูนธรรมชาติและพลาสติก ซึ่งมีจุดเด่นที่ความทนทาน กันน้ำ ติดตั้งง่าย และดูแลรักษาสะดวกสบาย แม้จะมีข้อเสียเล็กน้อยเกี่ยวกับความแข็งของผิวสัมผัสและราคาที่อาจสูงกว่าวัสดุอื่น แต่หากมองในแง่ของความคุ้มค่าในระยะยาวแล้ว พื้น SPC ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวัสดุปูพื้นคุณภาพสูง
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับพื้น SPC มากขึ้น และตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น เพื่อให้บ้านหรือพื้นที่ของคุณดูสวยงาม ใช้งานได้ทนทาน และคุ้มค่ามากที่สุด
จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระเบื้องยาง กระเบื้องปูพื้น SPC,แผ่นปูกระเบื้องยาง LVT กระเบื้องยางคลิ๊กล็อค บัว-ตัวจบ ครบองค์ประกอบเรื่องพื้น สวยงามคุณภาพสูง มาพร้อมลวดลายสีสันให้เลือก มากมาย มีความทนทาน กันน้ำ-กันปลวก แถมยัง ปลอดภัยยับยั้งแบคทีเรีย คุณภาพคุ้มราคา สนใจติดต่อ 062-645-8855
มีทีมงานบริการวัดพื้นที่
มีทีมช่างแนะนำพร้อมติดตั้ง
รับประกันสินค้า* และบริการ*
จัดส่งทั่วประเทศ
เรื่องพื้นๆไว้ใจ SMART BUILTS